วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Nissan Juke Nismo 2013 รถแบทแมน คันเดียวในโลก

Nissan Juke Nismo 2013 รถแบทแมน คันเดียวในโลก
รถแบทแมน คันเดียวในโลก เท่ตามสไตล์บุรุษแห่งรัตติกาล ดำทะมึน เงียบครึม น่าเกรงขาม ซ่อนความตื่นเต้นเร้าใจไว้ภายใน Nissan Juke Nismo 2013 คันนี้คันเดียวในโลกจริง ๆ สมรรถนะแกร่งด้วยขุมพลัง 4 สูบ 1.6 ลิตร  ออกตัวจาก 0- 100 ภายใน 7.8 วินาที ซึ่งนับว่าแรงมากสำหรับเครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ

หลังจากนิสสันพึ่งเปิดตัวรถ Nissan Juke Nismo 2013 รุ่นใหม่ไปไม่นาน ล่าสุด ทางนิสสันก็ได้เผยโฉม Juke Nismo เวอร์ชั่นพิเศษแบบลิมิเต็ด อิดิชัน ซึ่งเป็นคันเดียวในโลก ในชื่อว่า "The Dark Knight Rises" ทั้งหรูหราและมาดเท่ตามสไตล์แบทแมน บุรุษแห่งรัตติกาล จากหนังชื่อดังนั้นเอง

          ตามรายงานระบุว่า ทางบริษัทนิสสันในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้จับมือกับผู้ผลิตภาพยนตร์ Warner Bros เปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษ "The Dark Knight Rises" ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ที่มีให้กันมาโดยตลอดระหว่างนิสสันและวอร์เนอร์ บรอส โดยผลิตขึ้นมาเพียงคันเดียวในโลก นอกจากนี้ยังใช้ในกิจกรรมการโปรโมทแพ็กเกจ DVD และ Blu-Ray ชุดพิเศษของหนังไตรภาค Batman The Dark Knight Rises ซึ่งออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา



          สำหรับ Nissan Juke Nismo เวอร์ชั่นแบทแมนนี้ มาพร้อมกับความดุดันเคร่งขรึมยิ่งขึ้นในสไตล์ฮีโร่แห่งเมืองก็อตแธมด้วยตัวรถสีดำด้าน เสริมด้วยเส้นสีแดงที่กันชนและสเกิร์ตข้าง ขณะที่เสาอากาศเปลี่ยนมาใช้สไตล์ครีบปลาฉลาม ประทับโลโก้ค้างคาวที่กระจังหน้าและด้านท้ายรถ ส่วนล้ออัลลอยเป็นแบบสีดำเงาสลับแดงขนาด 18 นิ้ว



          ภายในห้องโดยสารต้อนรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยโลโก้แบทแมนสุดคลาสสิกที่แผงข้างประตู รวมถึงพนักพิงศีรษะทุกที่นั่งและเพดานด้านในรถ ขณะที่กระจกมองข้างก็ติดตั้งโลโก้ค้างคาวไว้ด้วยเช่นกัน ทำให้เวลาเปิดไฟเลี้ยวจะเห็นรูปค้างคาวสะท้อนวิบวับอยู่ที่พื้นดูโดดเด่นสะดุดตาไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน



          อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่า Juke Nismo The Dark Knight Rises รุ่นพิเศษนี้ จะไม่ได้มีการผลิตเพื่อออกจำหน่ายจริง แต่สำหรับ Juke Nismo รุ่นโปรดักชั่นสเปคเครื่องสำหรับจำหน่ายเพื่อทำตลาดในสหราชอาณาจักรในเดือนมกราคมปี 2013 ที่จะถึงนี้แล้ว ซึ่งตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง 4 สูบ 1.6 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ ผลิตพละกำลังสูงสุด 197 แรงม้า ทำความเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ได้ภายใน 7.8 วินาที มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกสะดุดตาด้วยชุดบอร์ดี้คิทรอบคัน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และการตกแต่งภายในดีไซน์สปอร์ต ซึ่งน่าจะถูกใจใครหลายคนอยู่ไม่น้อย

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

TOYOTA AGYA อีโค่คาร์ที่กำลังจะมาไทยในปีหน้า


TOYOTA AGYA อีโค่คาร์ที่กำลังจะมาไทยในปีหน้า
อีโค่คาร์กำลังเป็นที่นิยมของรถยนต์ยุคใหม่ ยุคแห่งการประหยัดพลังงาน ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ จึงหันมาเอาดีทางด้านอีโค่คาร์กันเต็มที่ ว่าแล้ว TOYOTA ก็มาออกแบบรถประหยัดพลังงาน ภายใต้ชื่อว่า AGYA เป็นภาษาอินโนนีเซีย แปลว่าความเร็ว เป็นรถยนต์อีโค่คาร์ขนาด 1.0 ลิตร 3 สูบ ซึ่งประหยัดพลังงานแน่นอน 
กำลังจะมาเป็นน้องใหม่ คันล่าสุดในปีหน้า กับว่าที่รถยนต์อีโค่คาร์จากค่ายรถยนต์  Toyota  ที่ค่อนข้างมันใจว่าจะขายดี แต่แม้จนถึงบัดนี้เราจะยังไม่เห็นว่าที่รถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งมีกระแสลือกันหนาหูมากมาย แต่แน่นอนว่า ในความเป็นไปได้ในหลายรุ่นทำให้เราเฝ้ามองตลาดด้วย ความสนใจ ในรถรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวจำหน่ายไปแล้วที่อินโดนีเซีย และในความบ้านใกล้เรือนเคียง มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมาลงตลาดในประเทศไทย
                แม้อินโดนีเซียจะไม่ใช่ตลาดที่รถยนต์นั่งขนาดเล็กได้รับความนิยมมากนัก แต่ค่าย Toyota  ก็เดินตามแนวนโยบายของที่นั่น ด้วยการแนะนำรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากถึง 90%  ทำให้ได้ส่วนลดทางภาษี โดยชื่อคำว่า Agya  นั้น เป็นภาษาทางอินโดนีเซีย หมายถึง "ความเร็ว"
ชื่อที่ฟังดูเผินๆคล้ายๆ กับ  Toyota Aygo  ที่วางจำหน่ายที่ญี่ปุ่น ถูกทำให้น่าสนใจด้วยการเอาความทันสมัยในการออกแบบในยุคใหม่มาแต่งแต้มลงบนเรือนร่างขนาดความยาว 3,580 ม.ม. กว้าง 1,600 ม.ม. และ สูง 1,530 ม.ม. ภายใต้เรือนร่างในลักษณะ 5 ประตู แฮทช์แบ๊ค ที่ให้ความลงตัวในการใช้งาน ภายใต้ความอรรถประโยชน์ แม้จะมีเรือนร่างขนาดเล็กก็ตาม
                ในห้องโดยสาร เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากมาย  แม้จะไม่ได้ไฮเทคมาก แต่ก็เพียงพอที่จะจุผู้โดยสาร 5 คน ไปในเจ้าเปี๊ยกคันนี้ ที่มีดีกรีในการใช้งานเพียงพอต่อคนเมือง มาพร้อมเครื่องเสียงที่มีช่องเชื่อมต่อเสริม AUX  และยังสามารถรองรับช่องเสียบแบบ USB  ให้ความทันสมัยในตัวรถมากขึ้น  รวมถึงความปลอดภัย อย่างถุงลมนิรภัย ที่จัดมาให้เสร็จสรรพ

เรื่องสมรรถนะการขับขี่  Toyota Agya มาพร้อมเครื่องยนต์ รหัส 1 KR-FE  แบบ 3 สูบแถวเรียงขนาด 1.0 ลิตร ตอบโจทย์ในการขับขี่ด้วยพละกำลังที่มุ่งเน้นในเรื่องความประหยัดเป็นสำคัญ ผ่านฝูงม้า 65 แรงม้า ที สูงสุดที่ 6000 รอบต่อนาที และให้กำลังแรงบิดสูงสุด 91 นิวตันเมตร ที่ 4800 รอบต่อนาที ปล่อยไอเสียต่ำเพียง 109 กรัม / กิโลเมตร ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นนี้เคยชนะรางวัล เครื่องยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี ตั้งแต่ปี 2007-2010 มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เน้นความเหมาะสมต่อการใช้งานจริง
                แม้จะยังไม่สามารถพูดได้เต็มปากถึงการมาไทยของรถยนต์รุ่นนี้ แต่แน่นอนว่า รถยนต์อีโค่คาร์ของ TOYOTA  นั้น ไม่ไกลเกินที่จะรอแล้วสำหรับปีหน้า ซึ่งถ้าใครกำลังมองหารถที่ให้ความประหยัดจากค่ายนี้ บอกได้เลยว่า ต้องติดตามให้ดี


วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

รถยนต์คันแรก ใชสิทธิ์สูงถึง 800,000 คัน ใช้เงินภาษี 60,000 ล้านบาท


รถยนต์คันแรก ใชสิทธิ์สูงถึง 800,000 คัน ใช้เงินภาษี 60,000 ล้านบาท
รถยนต์คันแรกใกล้จะหมดเขตแล้วภายใน 31 ธันวาคมนี้ เพราะฉะนั้นต้องรีบยื่นให้เรียบร้อยภายใน 24.00 น.  จะได้ไม่เสียสิทธิ์กัน สำหรับรถยนต์คันแรกตามนโยบายของรัฐบาลปรากฎว่ามียอดเกิดเป้ามากมายก็ถือว่าเป็นความสำเร็จในนโยบาย แต่ก็ใช้เงินภาษีสูงด้วยเช่นกันถึง 60,000 ล้านบาท ทางกรมสรรพสามิตก็ออกมาเตือนให้รีบยื่นใช้สิทธิ์ และปฏิบัติตามเงื่อนไข  หากมีการเปลี่ยนมือก่อน 5 ปี ก็ต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับทั้งหมดด้วย ขอให้ผู้ใช้สิทธิ์ศึกษารายละเอียดของเงื่อนไขให้มาก ๆ เพื่อจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้อง

กรมสรรพสามิต คาดว่ายอดผู้ใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรก จะสูงถึง 800,000 คัน สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ 500,000 คัน คาดว่าต้องคืนเงินภาษีรถยนต์ 60,000 ล้านบาท
ยอดการใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกขณะนี้สูงถึง 770,000 คัน เกินเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้เพียง 500,000 คัน และคาดว่าจนถึงสิ้นปียอดใช้สิทธิ์อาจจะสูงถึง 800,000 คัน 

นายสมชัย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ประเมินว่าจะต้องใช้ เตรียมเงินภาษีที่ต้องจ่ายคืนประมาณ 60,000 ล้านบาท
ขณะนี้ทางกรมฯ ขยายเวลายื่นเอกสารผู้ใช้สิทธิ์ โดยจะเปิดรับเอกสารในวันธรรมดาถึง 20.00 น. รวมถึงเปิดให้บริการเสาร์-อาทิตย์ และในวันปิดโครงการ 31 ธันวาคม จะเปิดให้บริการถึง 24.00 น.
ทั้งนี้อธิบดีกรมสรรพสามิตเตือนผู้ขอใช้สิทธิ์ ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการใช้สิทธิ์รถคันแรกอย่างเคร่งครัด หากขายดาวน์รถยนต์หรือเปลี่ยนมือก่อนกำหนด 5 ปี ต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

CHEVROLET SPIN รถอเนกประสงค์ขนาดเล็กที่กำลังมาแรง


CHEVROLET SPIN รถอเนกประสงค์ขนาดเล็กที่กำลังมาแรง
CHEROLET นับวันรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กเริ่มเป็นที่ีนิยมกันมากขึ้นตามลำดับจึงได้เปิดตัว CHEVROLET SPIN ออกมาอันเนื่องมาจากยุคแห่งการประหยัดพลังงานก็ว่าได้  ปัจจุบันค่ายรถยนต์ต่าง ๆ คันมาเอาดีทางด้านรถยนตอเนกประสงค์ขนาดเล็กกันมาก ด้วยความกะทัดรัด ปราดเปรียว แต่ก็เน้นความสวยงามที่สะดุดตาเรียกง่าย ๆ ว่า SPIN

SPIN ในงาน Motor Expo 2012  ที่ผ่านมา หากใครได้เดินเข้าที่บูธ  Chevrolet  คงจะเห็นรถยนต์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า เรียกว่าเป็นดาวเด่นของค่ายรถโบว์ไทน์ในปีนี้เลยก็ว่าได้กับ  Chevrolet Spin ที่เปิดตัวไปแล้วในประเทศอินโดนีเซียและครั้งนี้ค่ายรถยนต์รายนี้ก็นำมันมาโชว์เป็นคำมั่นสัญญาว่ามันจะพร้อมจำหน่ายในประเทศไทย

                 Chevrolet Spin เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับการวางหมากพัฒนาขึ้นมาตอบสนองตลาดรถยนต์อเนกประสงคืขนาดเล็ก ภายใต้แนวคิดที่ต้องการฉีกความเป็นตวัตนของรถยนต์อเนกประสงคืที่ให้รายละเอียดที่แตกต่างไม่ใช่เพียงแค่เรื่องประโยชน์ใช้สอยในเรื่องการโดยสารแต่ต้องดูดีด้วย
กายภายนอก  Chevrolet Spin มาพร้อมเรือนร่งที่ใมห้ความแตต่างที่เน้นในความเล็กระทัดรัดในตัวเองและยังดูดีไปพร้อมกัน กับการออกแบบที่เน้นในรายละเอียดที่ให้ความลงตัวในแบบรถยนตืครอยครัวที่มีอะไรมากกว่าการเป็นกล่องวิ่งได้ การคิดนอกกรอบนี้เองที่ทพให้เรือนร่างของ  Chevrolet Spin เริ่มต้นด้วยกระจังหน้าแบบ  Dual Port  เหมือนที่ใช้ในรถยนต์ของค่ายรถยนต์รายนี้หลายๆรุ่น ไฟหน้าให้รายละเอียดที่อาจจะไม่ได้เน้นหรูหรา แต่ให้ความลงตัวในสไตล์คมเข้ม นับเป็นรายละเอียดที่แตกต่างจากเพื่อในกลุ่มพอสมควร
 SPIN เรือนร่างการออกแบบยังส่งตรงสู่ด้านข้างของตัวรถที่เน้นในการเสริมเติมแต่งรายละเอียด  เพิ่มเส้นสายที่มากยิ่งขึ้นแต่โดยรวมเน้นความคมเข้มแข็งแกร่งดุดันแต่ไม่มากจนเกินงามไปนัก ผ่าน 4 ประตูทางด้านข้างสุ่บั้นท้ายที่ตอบโจทย์ในการออกแบบที่ให้รายละแยดด้วยไฟท้ายที่เพิ่มเสน่ห์ให้ลงตัวมากยิงขึ้น
                ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ใช้ทีมออกแบบเดียวกัย  Chevrolet Colorado  และ  Chevrolet Trailblazer  ทำให้กลิ้นอายการออกแบบหลายอย่างนั้นมีความคล้ายกัน และเป็นสิ่งที่ค่าย Chevrolet  มองว่าน่าจะถูกใจลูกค้าในตลาดรถยนต์ อเนกประสงค์ที่เกือบทั้งหมดเป็นเพียงกล่องติดล้อวิ่งได้เท่านั้น
                Chevrolet Spin  มีแนวโน้มในการวางจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงปีหน้า โดยคาดว่าน่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป้นทางการในงาน Motor Show 2013 ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆนั้น น่าจะได้ทราบกันอีกไม่นานนี้ เตรียมรอพบ SPIN น่ะครับ 

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

New Camry 2.0G Extremo สะใจด้วยชุดแต่งสปอร์ตครบครัน


New Camry 2.0G Extremo สะใจด้วยชุดแต่งสปอร์ตครบครัน

TOYOTA หลังจากที่ Camry 2.0 ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในรุ่นก่อนหน้านี้  จึงได้ออก Camry 2.0 G ใหม่ตามคำเรียกร้อง มาคราวนี้มอบชุดแต่งทั้งคันชนิดที่ออกรถยนต์ Camry ใหม่ไปแล้วไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก เพราะว่าได้รับกระแสตอบรับด้านยอดขายอย่างดี

 สำหรับ Toyota Camry 2.0G Extremo รุ่นก่อนหน้านี้ ด้วยรูปทรงที่สวยหรู อยู่แล้วของ Camry เมื่อเพิ่มชุดแต่งสปอร์ตเข้าไป ยิ่งทำให้สวยสะดุดตา และครองใจลูกค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โตโยต้าจึงทำการ นำ Camry Extremo ใหม่ กลับมาสร้างความนิยมควบคู่ไปกับรุ่น Hybrid อีกครั้ง Camry 2.0G Extremo ใหม่ ครั้งนี้ มาพร้อมชุดแต่งต่าง ๆ มากมาย
  • ชุดแต่งรอบคัน สเกิร์ตกันชนหน้า ด้านข้าง กันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง
  • ป้ายสัญญลักษณ์ “EXTREMO” ในด้านหลัง
  • โคมไฟหน้า และโคมไฟท้ายแบบ Smoke Chrome
  • ล้อแม็กซ์ขนาด 16 นิ้ว สีเทาดำ พร้อมยางขนาด 215/60/R16
  • ภายในหรูหรา ด้วยโทนสีดำทั้งเบาะนั่ง แผงประตู คอนโซล พวงมาลัยลายไม้ และหัวเกียร์หุ้มหนัง

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์ 1AZ-FE DOHC 16 วาล์ว VVT-i 2.0 ลิตร
147 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที

เกียร์

เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด Super ECT ให้ความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์

ระบบกันสะเทือน

  • ระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบกันสะเทือนหลังแบบ อิสระดูอัลลิงค์สตรัท

Camry 2.0G Extremo มีให้เลือก 3 สี คือ

  • Silver Metallic
  • Black Mica
  • White Pearl

ราคา

ราคา 1,305,000 บาท
เพิ่มอีก 10,000 บาท สำหรับสี White Pearl
  • สีภายในสีดำ
  • หัวเกียร์หุ้มหนังพร้อมลายไม้
  • ไฟหน้าแบบ HID รมดำ พร้อมปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ และไฟท้ายแบบ LED รมดำ
  • เครื่องเล่น DVD 1 แผ่น แบบหน้าจอสัมผัส 6 ลำโพง พร้อมรองรับบริการ Smart G-BOOK
  • ระบบนำทางในรถยนต์
  • ช่องต่อ AUX และ USB
  • สเกิร์ตกันชนหน้า-หลัง Extremo
  • สเกิร์ตข้างขวา-ซ้าย Extremo
  • สปอยเลอร์หลัง Extremo
  • สัญลักษณ์ Extremo ด้านท้ายรถ และด้านข้างขวา-ซ้าย
  • พรมปูพื้น Extremo สีดำ

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์ การแข่งขันระดับโลกครั้งแรกในไทย 14-16 ธ.ค.55


เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์ การแข่งขันระดับโลกครั้งแรกในไทย 14-16 ธ.ค.55
เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์

การแข่งขันระดับโลกครั้งแรกในไทย 14-16 ธ.ค.55 นี้
ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก เปิดขายบัตรแล้ว

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับ 2 ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ เรดบลู และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัดจัดการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกครั้งแรกในไทย เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์ ไทยแลนด์ 2012 (Red Bull Singha Race Of Champions Thailand 2012)


 โดยขนนักแข่งระดับโลก อาทิ ไมเคิล เอล ชูมัคเกอร์, เซบาสเตียน เวทเทล, ไรอัน ฮันเตอร์-เรย์, เจมี่ วินช์คัป, มิค โดฮาน ฯลฯ มาร่วมงาน โดยมีบริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด, บริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมสนับสนุนการแข่งขัน ในระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค.55 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กรุงเทพ
นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้กล่าวว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับคนไทยทั้งประเทศ ที่จะได้มีโอกาสได้ชมการแข่งขันรถยนต์ระดับโลก เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์ ไทยแลนด์ 2012 (Red Bull Singha Race Of Champions Thailand 2012) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 14-16 ธันวาคม 2555 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก โดยการแข่งขันครั้งนี้เป็นการจัดงานนอกทวีปยุโรป และเป็นสนามที่ 2 ในทวีปเอเชีย หลังจากได้จัดขึ้นครั้งแรกที่สนามรังนก กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปี 2552
โดยการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นรวม 3 วัน คือในวันที่ 14 ธ.ค. 55 จะเป็นการแข่งขันเรซออฟแชมเปี้ยนส์ เอเชีย (Race Of Champions Asia) จัดขึ้นสำหรับประเทศในเอเชียที่จะมาแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะไปเข้าแข่งในวันที่สองต่อไป ซึ่งผู้สนใจสามารถหาซื้อบัตรเข้าชมได้แล้ววันนี้ ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือผ่านทาง www.thaiticketmajor.com โดยราคาบัตรเข้าชมเริ่มต้นตั้งแต่ราคา 200, 400, 700 และ 1,000 บาท และในวันที่ 15 และ 16 ธ.ค. 55 บัตรที่จำหน่ายจะสามารถนำไปใช้เข้าชมได้ทั้ง 2 วัน ราคาเริ่มต้นใบละ 400, 800, 1,500, 3,000, และ 5,000 บาท 


โดยในวันที่ 15 จะเป็นการแข่งชิงแชมป์ระดับประเทศ เรซ ออฟแชมเปี้ยนส์ เนชั่น คัฟ (Race Of Champions Nations Cup) โดยมีประเทศที่เข้าร่วมจำนวน 8 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย, เยอรมัน, อังกฤษ, อเมริกา, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, ทีมของประเทศที่ชนะการแข่งขันในวันแรก (14 ธ.ค. 55) และอีกหนึ่งประเทศกำลังอยู่ในการพิจารณา ส่วนในวันสุดท้าย 16 ธ.ค. 55นั้น จะการแข่งขันเพื่อชิงแชมป์เรซออฟแชมเปี้ยนส์ (Race Of Champions) เป็นไฮไลท์จุดเด่นที่สำคัญสุดที่ทุกคนรอคอย เป็นการนำเอาแชมป์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากสนามต่างๆ มาแข่งร่วมกัน เพื่อชิงความเป็นแชมป์อันดับหนึ่ง ผมจึงขอเชิญชวนให้ผู้สนใจทุกท่านมาเข้าชมการแข่งขัน เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์ ไทยแลนด์ 2012 (Red Bull Singha Race Of Champions Thailand 2012) โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.raceofchampions.com เพราะการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกแบบนี้ นานๆ ครั้ง ถึงจะจัดขึ้นในประเทศไทย ถ้าพลาดอาจจะต้องรอไปอีกนาน นอกจากนี้ภายในงานคาดว่าจะมีชาวต่างประเทศเดินทางมาร่วมชมการแข่งขันด้วย ซึ่งก็จะทำให้การท่องเที่ยวของไทยได้ตื่นตัวกลับมาคึกคักเพิ่มมากขึ้น หลังจากอยู่ในภาวะซบเซาหลังเกิดวิกฤตกาณ์ต่างๆ มามากมาย และแน่นอนจะต้องส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาครวมของประเทศไทยให้ดีมากขึ้น มีเงินทองไหลเข้าสู่ประเทศมากขึ้นตามไปด้วยครับ” ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวทิ้งท้าย

AUDI RS6 Avant แรงสุดขั้ว 552 แรงม้า

AUDI RS6 Avant แรงสุดขั้ว 552 แรงม้า

Audi เป็นรถยนต์ที่หน้าตาสวยแปลกดีมีห่วงอยู่ด้านหน้ารถยนต์ เป็นรถยนต์ที่ออกแบบรูปทรงสปอร์ต ขับขี่เร้าใจยิ่งนักทั้งหมดที่เราพูดถึงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่พูดถึงได้ดีใสนความเป็นตัวตนของ  Audi RS6 Avant  ที่กลับมาถ่ายทอดความแรงอีกครั้งในรถยนต์สปอร์ตเวอร์ชั่นใหม่ที่ยังคงความจัดจ้านในฝีเท้า โดยครั้งนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8   4.0  ลิตรเทอร์โบคู่ ที่สามารถตอบสนองความเร้าใจสูงสุดถึง  552  แรงม้า จากโรงงานและแรงบิดขนาด  700  นิวตันเมตร ที่ไม่ธรรมดา ในการให้ความสามารถตั้งแต่  1,750 - 5,000 ร บอต่อนาที ที่มาพร้อมกับระบบ  cylinder on demand (COD) ช่วยแปลงการทำงานเป็น  4  สูบในบางจังหวะ เพื่อช่วยในการประหยัดน้ำมันมากขึ้น



Audi RS6 Avant  มาพร้อมสมรรถนะที่แรงเร้าใจให้อัตราเร่ง 0-100  ก.ม./ช.ม. ในเวลาเพียง  3.9  วินาที และยังมีความเร็วสูงสุดถึง  250 ก.ม./ช.ม. แต่จะมีความสามารถมากกว่านั้นเมื่อเลือกแพ็คเกจ  Dynamics ซึ่งจะทำความเร็วสูงถึง  280 ก.ม./ช.ม. และ  Dynamic Plus  จะสามารถทำความเร็วได้สูงถึง  305  ก.ม./ช.ม.

                เคล็ดไม่ลับในการพัฒนาเจ้าสปอร์ตคันใหม่ลำนี้อยู่ที่การทำให้โครงสร้างตัวถึงมีความเบามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมถึง  100 กิโลกรัม โดยการใช้วัสดุน้ำหนักเบา อย่างเช่นอลูมิเนียมที่เพิ่มเข้ามามากถึงร้อยละ 20 ของส่วนตัวถังรถคันนี้ พร้อมจัดการเสริมหล่อให้ความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยชุดแต่งรอบคัน เพื่อให้หลักอากาศพลศาสตร์ดีมากยิ่งขึ้น ไปจนถึง ล้ออัลลอยมาตรฐานขอบ  20 นิ้ว และสามารถเลือกเป็น  21  นิ้วถ้าต้องการ ส่วนห้องโดยสารไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายนัก แต่เบาะสปอร์ตคู่หน้า พร้อมเบาะหลังมาตรฐานหรือ จะเลือก เบาะสปอร์ต  3 ตัวก็ย่อมได้

                ด้านสมรรนถะในการขับขี่เมื่อมีเครื่องยนต์ที่แรงมันก็ต้องการความมั่นใจใสการขับขี่ด้วยการปรับแต่งช่วงล่างใหม่ ที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่ที่มุ่งในความสปอร์ต มีการเปลี่ยนค่าของโช๊คใหม่เช่นเดียวกับสปริงของรถ ที่จัดการด้วยระบบ Dynamic Ride Control (DRC) และควบคุมการทรงตัวผ่าน  electronic stabilization control (ESC) ที่มาพร้อมโหมดสปอร์ต ซึ่งสามารถยกเลิกได้ทั้งหมดหากต้องการ
ขอบคุณข้อมูล สนุกดอดคอม

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Motor Expo 2012 ยอดจองรถยนต์พุ่งเกือบ 5 หมื่นคัน

Motor Expo 2012 ยอดจองรถยนต์พุ่งเกือบ 5 หมื่นคัน
ประชาชน แห่ชมงาน Motor Expo 2012 แน่นเมืองทอง ดันยอดจองรถ 9 วัน แตะ 48,368 คัน ขายดิบขายดี ฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน อีซูซุ และมาสด้า แบ่งกันไปตามอัตราส่วนเพื่อให้กันกับการลดหย่อนภาษี 100,000.- บาท 


            วันนี้ (7 ธันวาคม) รายงานข่าวจากงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 หรือ Motor Expo 2012 เปิดเผยว่า ยอดจองซื้อรถในงาน 9 วัน ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีจำนวน 48,368 คัน โดยรถขายดี 5 อันดับแรก คือ 



ฮอนด้า 10,932 คัน


 โตโยต้า 10,334 คัน 


นิสสัน 4,855 คัน 


อีซูซุ 4,038 คัน และ 


มาสด้า 3,305 คัน

            ขณะที่บรรยากาศภายในงานมหกรรมยานยนต์ เป็นวันที่ 10 พบว่า จำนวนประชาชนยังหลั่งไหลเข้าชมงานต่อเนื่อง ส่งผลให้การจราจรรอบอิมแพ็ค เมืองทองธานี รถติดขัด โดยงานมหกรรมยานยนต์ จะมีจนถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ซึ่งตัวเลขการจองรถยนต์ก็คงเพิ่มกว่านี้อีกแน่นอน  แต่ก็คาดคะเนได้ว่า การจองรถยนต์ก็มากทะลุเป้า และเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาเจ้าของค่ายรถยนต์แน่นอน

NEW TOYOTA ALTIS E85 1.8 ปรับปรุงใหม่ ได้ลดหย่อนภาษี 100000

NEW TOYOTA ALTIS E85 1.8 ปรับปรุงใหม่ ได้ลดหย่อนภาษี 100000 

NEW TOYOTA ALTIS E85 1.8 ลิตร โตโยต้าแนะนำ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ รุ่น 1.8 ลิตร พร้อมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 และปรับราคาลงจากการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี 100000 ขายดิบขายดีจากงาน MOTOR EXPO มียอดจองมาแรงมากสำหรับ  NEW ALTIS 1.8 E85 คันนี้ ซึ่งถือเป็นยุคแห่งพลังงานทดแทนจริง ๆ สำหรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต


เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี 2ZR-FBE…ปรับปรุงใหม่ พร้อมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85
แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ที่ให้อัตราเร่งโดดเด่น และประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ปรับจังหวะเปิด-ปิดลิ้นไอดีและไอเสียแบบ   แปรผัน โดยสอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์จึงทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งอัตราเร่งดีขับขี่ได้ราบรื่น ช่วยลดมลพิษและประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยม



เฉพาะในรุ่น 1.8 ลิตร มีการปรับเปลี่ยนวัสดุและชนิดสารเคลือบของอุปกรณ์ต่างๆ อาทิเช่น แหวนลูกสูบและลูกสูบ ท่อส่งน้ำมันเข้าหัวฉีดวาล์วและบ่าวาล์วของทั้งไอดีและไอเสีย หัวเทียน รวมทั้ง PCV วาล์ว เพื่อให้สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้อย่างมั่นใจตามมาตรฐานจากโรงงานของโตโยต้า


“นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทางโตโยต้าได้มีการเพิ่มเติมในส่วนของรายละเอียดผลิตภัณฑ์ โดยในรุ่น 1.8 ลิตร มีการเพิ่มรุ่น 1.8G Navi ที่มาพร้อมกับ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่และภายในโทนสีเทา-ดำ ที่ให้อารมณ์สปอร์ต  ระบบนำทางในรถยนต์ In-Car Navigator  พร้อมกล้องมองหลัง ในขณะที่รุ่น 2.0 ลิตร มีการเพิ่มกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ที่สามารถแสดงภาพจากกล้องมองหลังผ่านทางกระจกได้  และในรุ่น 1.6 ลิตร* ที่เพิ่มถุงลมและเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าอีกด้วย นอกจากนี้ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ยังเป็นรถซีดานที่มีความโดดเด่นเหนือระดับ ด้วยจุดขายหลักในด้านสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นด้วยสุดยอดเครื่องยนต์ Dual VVT-i ที่ผสานกับความเหนือชั้นของระบบเกียร์ Super CVT-i 7speed** ให้สมรรถนะการขับขี่ ที่ยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมัน ตลอดจนมีคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลก”
* (ในรุ่น 1.6E CNG A/T, 1.6J M/T, CNG M/T (Color) และ CNG M/T)
** (เฉพาะในรุ่น 2.0 ลิตร  และ 1.8 ลิตร ทุกรุ่น)



ภายนอกใหม่  
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยว คมเข้มยิ่งกว่า (ในรุ่น 1.8 ลิตร ทุกรุ่น)
- กล้องมองหลัง เพิ่มความปลอดภัยในการถอยจอด โดยจะแสดงภาพด้านหลังผ่านจอ LCD ช่วยให้ถอยจอดได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัยยิ่งขึ้น (เฉพาะในรุ่น 2.0 ลิตร และ 1.8G Navi)




ภายในใหม่ 
- โทนสีภายในใหม่ สีเทา-ดำ ด้วยโทนสีเทา-ดำ ทั้งเบาะที่นั่ง แผงประตู คอนโซล พวงมาลัยและ
หัวเกียร์ (ในรุ่น 1.8G และ 1.8G Navi)
- วัสดุหุ้มเบาะผ้า (ในรุ่น 1.8E)
- ชุดเครื่องเสียงดีไซน์ใหม่ รองรับ DVD, CD, VCD, MP3 และ WMA 1แผ่น แบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 5.8 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB / SD card / AUX และระบบนำทาง In-car Navigator (ในรุ่น 1.8G Navi)
-  กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ (ในรุ่น 2.0V Navi)  และสามารถแสดงภาพจากกล้องมองหลังผ่านทางมุมล่างของกระจกได้  (ในรุ่น 2.0V และ 2.0G)

อุปกรณ์ความปลอดภัยใหม่
- ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า  SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารโดยสามารถช่วยลดแรงกระแทกจากการชน (ในรุ่น 1.6E CNG A/T, 1.6J M/T, CNG M/T (Color) และ CNG M/T)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบกับเบาะเมื่อเกิดการชนและลดการ บาดเจ็บจากการรัดดึง ของระบบเข็มขัดนิรภัย (ในรุ่น 1.6E CNG A/T, 1.6J M/T, CNG M/T (Color) และ CNG M/T)


ราคา Toyota Altis โตโยต้า อัสติส พร้อมเป็นเจ้าของ โคโรลล่า อัลติส รุ่นปรับปรุงใหม่….
2.0 V Navi ราคา 1,199,000 บาท
2.0 V A/T ราคา 1,064,000 บาท
2.0 G A/T ราคา 979,000 บาท
1.8 G Navi (รุ่นเพิ่มเติม) ราคา 949,000 บาท
1.8 G A/T ราคา 899,000 บาท
1.6 E CNG A/T ราคา 859,000 บาท
1.8 E A/T ราคา 829,000 บาท
1.6 G A/T ราคา 819,000 บาท
1.6 J M/T ราคา 751,000 บาท
CNG M/T (Color) ราคา 756,000 บาท
CNG M/T ราคา 744,000 บาท
(ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และเครื่องปรับอากาศ)

FORD เปิดตัว TERRITORY รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม 2.7 ลิตร V6

FORD เปิดตัว TERRITORY รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม 2.7 ลิตร V6
FORD ฟอร์ด เปิดตัวรถหรูระดับพรีเมี่ยม TERRITORY V6 2.7 ลิตร  190 แรงม้า ราคา 2,990,000.- บาท มาเอาใจผู้ที่รักฟอร์ด และผู้ที่ชอบรถหรูสมรรถนะสูง เครื่องยนต์แรง ๆ FORD TERRITORY จึงจัดให้พร้อมกับของสมนาคุณมากมาย

FORD ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี โดยนายแมท แบรทลีย์ ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และนางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด การขายและการบริการ เปิดตัวรถสองรุ่นใหม่ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 ได้แก่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.5 ลิตร วีซีที และ ฟอร์ด เทอริทอรี่ ใหม่ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม รุ่นเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วี6 ขนาด 2.7 ลิตร จากประเทศออสเตรเลีย
FORD TERRITORY ฟอร์ด เทอริทอรี่ ใหม่ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม ขนาดเจ็ดที่นั่ง จากประเทศออสเตรเลีย ประกอบด้วย เครื่องยนต์ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วี 6 ขนาด 2.7 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า และ แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ออลวีลไดรฟ์ (AWD ด้วยราคาจำหน่าย 2,990,000 บาท
FORD TERRITORY รถอเนกประสงค์หรูระดับพรีเมี่ยม 7 ที่นั่งที่สะดวกสบาย รองรับอริยาบถทุกการเดินทางที่ไปพร้อมกับคุณได้อย่างมั่นใจในสมรรถนะและความปลอดภัยสูงสุด 


วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Subaru XV อเนกประสงค์สปอร์ต แรง ลุย ทุกรูปแบบ

Subaru XV อเนกประสงค์สปอร์ต แรง ลุย ทุกรูปแบบ
เมื่อได้ยินชื้อ Subaru แล้วก็ต้องนึกถึงความแรงของ Subaru กันทุกคน ไม่ต้องบอกสรรพคุณกันเลย เพราะ Subaru นั้นสร้างชื่อเสียงกันมายาวนานในเรื่องคุณภาพต่าง ๆ เป็นที่ยอมรับกันทุกคน



Subaru XV  มีข่าวคราวในประเทศไทยมานานพอสมควร ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ที่ค่ายรถยนต์  Subaru  นำ  Subaru XV  ใหม่ มาเปิดตัวโชว์โฉมอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2011 และในงานปีนี้กับ  Motor Expo 2012 มันก็กลับมาพร้อมด้วยความสปอร์ตที่ชัดเจนและลงตัวมากยิ่งขึ้น

                เส้นสายการออกแบบที่แตกต่างในความสปอร์ตที่เหมือนผสมมาจากรถนั่ง เป็นสิ่งที่สร้างความโดดเด่นในรถยนต์คันนี้ ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ต้องการสื่อสารให้มันเป็นมากกว่าแค่รถยนต์ที่ดูแกร่งบึกบึน แต่ Subaru  ฉีกด้วยการเอาความสปอร์ที่ดุดีเร้าใจมาผสมผสาน และลดดีกรีความแข็งแกร่งลงเล็กน้อย ให้มีความเป็นรถยนต์นั่งมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ที่ไม่ได้ดูถึงจนเกินไปนัก

                ไฟหน้าพร้อมความสามารถในการปรับระดับ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วรวมถึงรางหลังคา และ สปอร์ยเลอร์หลังคา จัดมาให้เป็นออพชั่นมาตรฐานของรถคันนี้ ซึ่งรวมถึงการหว่านเสน่ห์ในเส้นสายที่มาพร้อมกับกระจกมองข้างและไฟเลี้ยวแบบ  Led  ในตัว เย้ายวนความเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน

                ในห้องโดยสาร Subaru XV  เน้นการสร้างอารมณ์ที่แตกต่างในความทันสมัย และยังคงต้องมีฟังชั่นหลากหลายที่สามารถใช้งานได้จริงด้วย ตั้งแต่เบาะนั่งหลังสามารถประพับได้ในอัตรา 60/40 ไปจนถึงระบบแอร์อัตโนมัติ ที่มาพร้อมระบบขจัดฝุ่นในตัว

                เมื่อพูดถึงรถยนต์  Subaru  สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การขับขี่ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ และในด้านคนขับมันก็มี ระบบต่างๆมากมาย มาช่วย ทั้งระบบ Cruise Control หรือการให้ความเปี่ยมในเรื่องการขับเคลื่อนกับระบบ Paddles Shift   ไปจนถึงกล่องมองถอยหลัง ที่ให้ความง่ายดายในการบังคับเลี้ยวกับพวงมาลัยมัลติฟังชั่น

Subaru  ทุกรุ่นก็คงไม่พ้นในเรื่องของการให้ศาสตร์และศิลป์ผสมลงตัวกันในเครื่องยนต์พิเศษจำเพาะ  Boxer  โดยใน Subaru XV  นี้มันมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6200 รอบต่อนาที และ ให้กำลังแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4200 รอบต่อนาที ทั้งหมดจับคู่ระบบเกียร์  CVT  ที่ส่งกำลังต่อเนื่องในการขับขี่

                ส่วนเรื่องช่วงล่างก็มั่นใจได้มากขึ้นกับระบบกันสะเทือนแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังใช้ระบบปีนกอิสระ 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลงเช่นกัน

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก sanook.com

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ผลสำรวจพบ คนไทยเตรียมซื้อรถสิ้นปีนี้ 6%

ผลสำรวจพบ คนไทยเตรียมซื้อรถสิ้นปีนี้ 6%
MOTOR EXPO มีการสำรวจพบว่า คนไทยเตรียมซื้อรถยนต์สิ้นปีนี้ 6 % หมายความว่า 6 คน จาก 100 คน เตรียมเงินจะซื้อรถยนต์แน่ ๆ ในปลายปีนี้  และสีที่ยอดนิยมก็คือ สีขาว  ซึ่งเป็นสีที่มาแรงมาก ๆ สำหรับปีนี้ 



6% ของผู้บริโภควางแผนที่จะซื้อรถยนตร์คันใหม่ในปลายปี "สีขาว"เป็นสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับรถคันต่อไป ทั้งในหมู่ผู้ชาย-หญิง
จากการสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคเกี่ยวกับรถยนต์และความคาดหวังต่องานมอเตอร์ เอ็กซ์โปที่กำลังจะมีขึ้น นีลเส็นพบว่า ร้อยละ 6 ของผู้บริโภคไทยวางแผนที่จะใช้เงินปลายปีไปกับการซื้อรถคันใหม่ 

และมากกว่าครึ่งหนึ่งคาดหวังที่จะได้รับราคาหรือโปรโมชั่นพิเศษจากงาน Motor Expo
ผลการสำรวจพบว่า เหตุผลหลักในการเข้าชมงาน Motor Expo สำหรับ 1 ใน 2 ของผู้บริโภคไทย ร้อยละ 51% ยังคงเป็นการเสาะหาข้อเสนอพิเศษ หรือของแถมจากบริษัทห้างร้าน 

ในขณะที่อีกเกือบครึ่งมาเข้าชมเพราะสนใจการแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ หรือเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ
นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงานของแต่ละบริษัท ไม่ว่าจะเป็น การสอนขับรถยนต์ การสาธิตการทำงานของเครื่องยนต์ หรือเทคนิคเบื้องต้นสำหรับดูแลรถยนต์ มีความสำคัญต่อผู้ชมที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด 

โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งร้อยละ 51 ถือให้เป็นเหตุผลหลักในการมาร่วมงาน ในขณะที่กิจกรรมภายในงานมีความสำคัญต่อคนกรุงเทพน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ร้อยละ 36
สมวลี ลิมป์รัชตามร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยธุรกิจยานยนต์จากนีลเส็น กล่าวว่า การเสาะหาข้อเสนอพิเศษยังจะเป็นปัจจัยหลักในการเข้าชมงาน แต่จากการสำรวจของเราจะเห็นได้ชัดว่ามีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ 

ที่สนใจเข้าร่วมงานเพราะต้องการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการใช้รถ หรือสนใจนวัตกรรมใหม่ โดยผู้สำรวจยังเห็นความเปลี่ยนแปลงในด้านการตัดสินใจซื้อ โดยความต้องการการซื้ออุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 20 

แม้ว่าแนวโน้มการตัดสินใจซื้อรถยนต์ในงานแสดงจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้บริโภคไทยที่วางแผนจะซื้อรถยนต์คันใหม่ด้วยเงินสิ้นปีเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 50
จากการสำรวจของนีลเส็นยังพบว่า รถยนต์สีเงินแม้จะเป็นสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับรถยนต์ในประเทศไทยที่วิ่งอยู่ในปัจจุบันร้อยละ 18% แต่ผู้บริโภคเกือบ 4 ใน 10 คนชี้ว่ารถยนต์สีขาวจะเป็นตัวเลือกแรกสำหรับรถยนต์คันต่อไป

ทั้งในหมู่ผู้ชายและผู้หญิง โดยสีที่เป็นที่นิยมสำหรับรถเก๋งส่วนบุคคลคือสีขาว ดำ และทอง ในขณะที่สีแดง และสีเงิน ได้รับความนิยมสูงในหมู่ผู้ใช้รถกระบะ
ขอขอบคุณ sanook.com

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

TOYOTA RAV4 2013 คอมแพ็คคาร์อเนกประสงค์น้องใหม่ล่าสุด ที่ภูมิใจเสนอ

TOYOTA RAV4 2013 คอมแพ็คคาร์อเนกประสงค์น้องใหม่ล่าสุด ที่ภูมิใจเสนอ
TOYOTA RAV4 2013 เปิดตัวคอมแพ็คคาร์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ที่พร้อมลุยตลาดคืนหลังจากที่ห่างไป
ระยะหนึ่ง TOYOTA RAV4 2013 ก็จะเป็นตัวเลือกที่น่าจับตาดูทีเดียวเนื่องจากออกแบบมาชนิดที่ว่าต้องโดนกันแบบเต็ม ๆ ที่ TOYOTA ภูมิใจเสนอ


 การเปิดตัวรถยนต์  TOYOTA RAV4 2013 ใหม่ ถือเป็นการนำเสนอเส้นสายใหม่ให้ความแตกต่างทางบ้านการออกแบบของตัวที่เน้นในเรื่องความทันสมัยมากยิ่งขึ้น และได้รับความสนใจจากหลายๆฝ่าย เพราะถือเป็นครั้งแรกที่จะมีการเปิดการออกแบบที่หมายถึงรถยนต์ในอนาคตจากโตโยต้าในกลุ่มเดียวกันนี้อาจจะมีลักษณะที่มีความคล้ำคลึงกัน



TOYOTA RAV 4 2013 รุ่นใหม่ มาพร้อมการปรับเปลี่ยนในส่วนมิติตัวถัง ที่มีการปรับให้โดยมายิ่งขึ้น ครั้งนี้มาพร้อมความยาว 4569  มม. กว้าง 1844  มม. และสูง 1661 มม.  พร้อมกับระยะฐานล้อให้ความมั่นใจขับขี่ได้ ด้วยความยาว 2659  มม. โดยภายนอกตัวรถถูกออกแบบให้มีความโดนใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการสอดรับกับความทันสมัยของตัวรถ เข้ากับความสปอร์ตที่ใส่ดีเอ็นเอความแข็งแกร่งเข้ามา ให้ความลงตั้ง เริ่มจากด้านหน้าจรดท้าย ซึ่งนอกจากนี้ยังมีการเสริมความแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างที่ทันสมัยด้วยชุดเหล็กเนื้อเหนียว ที่เสริมในโครงสร้างตัวถัง ทำให้สามารถลดน้ำหนักของตัวรถในบางจุดได้

                ในห้องโดยสาร TOYOTA RAV4 2013 ใหม่ มาพร้อมการให้เสน่ห์ลงตัวภายใต้การแนวทางการออกแบบใหม่ ที่TOYOTA เรียกว่า "asymmetrical" หรือการให้ความสำคัญต่อผู้ขับขี่ โดยออกแบบคอนโซลหน้าให้สามารถสอดรับได้ย่างลง ตัวทำให้ผู้ขับขี่มี่สมาธิต่อการขับขี่มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะพวงมาลัยที่มาพร้อมกับระบบควบคุมที่พวงมาลัย ไปจนถึง ระบบความบันเทิงใน เบาะแถวสอง ที่สามารถแยกพับได้ในอัตรา 60/40/60  รวมถึงระบบความบันเทิงผ่านจอทัชสกรีนขนาด  6.1  นิ้ว และกล้องมองขณะถอยหลัง
                ด้านการสมรรถนะการขับขี่ Toyota  แนะนำเครื่องยนต์ขนาด 2.5  ลิตร รุนใหม่ ใน Toyota RAV4  สำหรับตลาดอเมริกา โดยให้กำลังสูงสุด 176  แรงม้า และแรงบิดสูงสุด  232  นิวตันเมตร  โดยพร้อมกันนี้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่มีรุ่นเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ตระกูล V6  อีกต่อไป

ส่วนในการจำหน่ายในตลาดยุโรปค่ายสามห่วงเตรียมนำเครื่องยนต์เบนซิน 2.0  149  แรงม้า ออกวางจำหน่าย เช่นเดียวกับที่จะแนะนำเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.0  122  แรงม้า  และ 2.2  ให้กำลังสูงสุด 148 แรงม้า ทั้งหมดถูกต่อเข้ากับระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ล่าสุด 6  สปีดที่ประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่แทนที่ระบบเกียร์  4  สปีด พร้อมติดตั้งระบบเคลื่อนเพื่อการลุย Dynamic Torque Control ที่ติดตั้งในรุ่นขับเคลื่อน  4 ล อ ยังสามารถเลือกปรับได้  3  โหมดตามความต้องการคือ Auto  ทำงานอย่างอัตโนมัติ เมื่อต้องการใช้พละกำลังในการฝ่าอุปสรรค , Sport  การควบคุมที่มันคงในการขับขี่ ทำงานผสานกับระบบควบคุมการทรงตัวในขณะขับรถ และท้ายสุด lock up สำหรับการลุยที่ให้ความสามารถในการถ่ายกำลัง  50/50  ตลอดเส้นทางการลุย และสามารถขับเคลื่อนได้สูงถึง 40  ก.ม./ชั่วโมง

TOYOTA INNOVA ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยดีไซน์เหนือระดับ

TOYOTA INNOVA ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยดีไซน์เหนือระดับ
โตโยต้า อินโนวา ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยดีไซน์เหนือระดับจริง ๆ สำหรับรถยนต์หรูหรามีระดับตอบสนองทุกการขับขี่่ด้วยดีไซน์ที่เหนือกว่าจริง ๆ สำหรับ อินโนวา INNOVA ที่พิสูจน์แล้วว่าเหนือระดับจริง ๆ 
TOYOTA INNOVA เครื่องยนต์เบนซิน VVT-i 2.0 ลิตร
แรงเต็มประสิทธิภาพด้วยแรงม้าสูงสุด 100 กิโลวัตต์ 136 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที
ตอบสนองทุกเส้นทางด้วยแรงบิดสูงสุด 182 นิวตัน-เมตร (18.6 กิโลกรัม-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที

TOYOTA โดดเด่นด้วยไฟหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว สะดุดตาด้วยกระจังหน้าดีไซน์หรูหรา มีระดับกับสเกิร์ตกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอก เพิ่มความปลอดภัย
TOYOTA INNOVA สดุดตาด้วยกระจังหน้าดีไซน์หรู ออกแบบอย่างปราณีต ให้ดูเด่นสวย แบบไลฟ์สไตล์ 

ล้ออัลลอยด์ ขนาด 15 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต

TOYOTA ให้ทุกการเดินทาง เป็นเส้นทางแห่งความสุข.. อินโนวา คอบครันด้วยชุดอุปกรณ์เอนเตอร์เทนเมนท์ จะดูหนัง หรือฟังเพลง ก็สนุกเต็มอิ่มได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าเส้นทางจะไกลแค่ไหน..ก็สุขได้ไม่จำกัด เครื่องเล่นวิทยุ DVD/CD 1 แผ่น MP3/WMA พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัน 6.1 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Bluetooth) จอ LCD ขนาด 10.2 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารด้านหลังเต็มอิ่มทุกความบันเทิงทั้งครอบครัว จุใจได้ทุกอารมณ์กับความบันเทิง ด้วยช่องต่ออุปกรณ์ USB, iPod และ AUX
TOYOTA ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง ด้วยเบาะโดยสาร 3 แถว 7 ที่นั่ง ดีไซน์โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของเบาะนั่งได้หลากหลายตามการใช้งาน เพื่อการเดินทางที่สมบูรณ์แบบ ตอบได้ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิต