วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลืมกุญแจไว้ในรถ ประสบการณ์ราคาแพง

ลืมกุญแจไว้ในรถ ประสบการณ์ราคาแพง 

มีใครลืมกุญแจไว้ในรถบ้างครับ หากคนที่ไม่เคยลืมก็ถือว่าท่านเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะดีมาก ๆ ในความคิดของผมน่ะ เพราะว่า กุญแจรถยนต์ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ มันต้องอยู่กับตัวเราตลอดเวลาจริงไหม แล้วมันมาลืมไว้ในรถได้อย่างไร บางคนก็ยังคิดไม่ออก ยังงง และก็งง มันลืมได้ไงหว่า 

http://autocar2555.blogspot.com/2013/07/vigo.html
ครับคือว่ารถยนต์ของผมเป็นรถยนต์ในระบบไฟฟ้ารุ่นก่อน ๆ คือว่า รุ่นก่อน ๆ เขาจะมีกุญแจแบบธรรมดาบ้าง หรือจะติดรีโมทก็ได้ สุดแล้วแต่ว่าใครอยากจะเอาแบบไหน เอากุญแจรีโมทราคาก็จะเพิ่มหน่อย หรือใครเอาแบบรุ่นธรรมดา ก็ไม่ต้องมีรีโมทก็ได้ ราคาก็ต่ำลงมาอีกหน่อย ตอนนั้นผมก็คิดว่ายังมีเงินไม่มาก ไม่อยากเพิ่มเงินว่างั้น ก็เลยเลือกเอารุ่นที่เป็นแบบธรรมดาสามัญ คือ กุญแจไขเปิด - ปิดเอาเอง หรือกดปุ่นล๊อกตัวในแล้วก็ง้างตัวเปิดประตูด้านนอกแล้วก็ปิดในจังหวะง้างเลย พอประตูปิด มันก็ล๊อกเลย ผมคิดว่าหลาย ๆ คนทำแบบผม คือล๊อกโดยวิธีง้างตัวเปิดประตูด้านนอกแล้วปิด หลาย ๆ คนก็คงเริ่มที่จะถึงบ้างอ้อแล้วใช่ไหมครับ


 แล้วทำไมผมจึงลืมกุญแจไว้ในรถล่ะ ทำไมไม่ถึงออกก่อนแล้วก็ล๊อกแบบที่ว่านั้นซะก่อนล่ะ เรื่องก็มีอยู่ว่า วันนั้นเป็นวันฝนตกเริ่มจะแรง (ยังไม่แรงมากนัก) ด้วยความรีบร้อนที่จะออกจากตัวรถแล้วไปทำธุระที่ไปรษณีย์แห่งหนึ่ง พอไปถึงไปรษณีย์ฝนก็เริ่มจะแรงขึ้น ผมก็บิดกญแจดับเครื่องยนต์ แล้วก็คว้าของที่จะส่งไปต่างจังหวัด พอก้าวออกจากตัวรถเท่านั้นก็ง้างตัวเปิดประตูด้านนอกปิดทันที โดยยังไม่ทันได้ชักกุญแจออกจากตัวรถเลย โดยปกติถ้าไม่มีเสียงฝน มันจะส่งเสียงติ๊ด ๆ ๆ ๆ เตือนให้เราดึงกุญแจออก ด้วยความซวยก็ว่าได้ เสียงฝนมันกลบเสียงร้องติ๊ด ๆ ๆ ๆ ทีว่านั้นเสีย พร้อมกับที่เรารีบก้าวออกจากตัวรถเร็วเกินไป คือใจมันไปถึงในไปรษณีย์แล้วหล่ะตอนนั้น เพราะกลัวว่าจะเปียกมาก ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยติดร่ม ก็เลยรีบก้าวออกจากตัวรถให้เร็ว ครั้นเมื่อผมได้ส่งของเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับรอสายฝนหยุดตกพอดี ก็เริ่มเดินไปที่รถพร้อมกับล้วงไปที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง ต้องร้องอุ้ย ๆๆๆๆๆ กุญแจรถตูอยู่ไหนเอ่ย ติ๊ก ต๊อก ๆ ๆๆๆๆ ไม่เจอ พอไม่เจอก็เริ่มนึกลำดับขั้นตอนการลงจากรถตอนฝนที่ตกตอนนั้น แล้วก็เริ่มจะนึกออกว่าเรารีบออกมาโดยไม่ดึงกุญแจออกมา แล้วก็แนบลูกกะตาทั้งสองไปที่กระจกที่ติดฟลิมกรองแสงขนาด 60 อันดำพอประมาณ แล้วก็เห็นพวงกุญแจรถยังแขวนอยู่ที่เดิมทุกประการ งานเข้าแล้วเราตอนนี้

สมองเริ่มคิดว่าจะทำไงดี ถ้าเป็นรถยนต์รุ่นเก่าก็ไม่ใช่ปัญหา  คือว่าผมเคยใช้รถยนต์ปี 94 อยู่คันหนึ่ง ไม่ขอบอกยี่ห่อก็แล้วกันเดียวเขาจะหาว่าเปิดช่องให้ขโมย  คือว่ารุ่นเก่าของผมคันนั้นผมเพียงใช้ไม้แขวนเสื้อมางอ ๆ เล็กน้อย แล้วสอดเข้าไปบริเวณใกล้ ๆ กับกระจกแล้วก็ถึงขึ้น ๆ ลง ๆ สักพักเดียว มันก็จะดึงปุ่มเปิด - ปิดขึ้นมาทันที แล้วก็เปิดรถได้แล้วไม่ยาก   แต่ไม่แนะนำ      ....แต่ของผมมันเป็นวีโก้ซิ  แล้วทำไงล่ะ ก็ต้องโทรหาช่างกุญแจมาเปิด แต่ช่างกุญแจเขาก็มาบอกว่าพอได้  พอเปิดได้ เราก็อุ่นใจขึ้นมานิดหนึ่ง  แต่เขามี 2 วิธี คือ  วิธีแรก เขาบอกว่าใช้กุญแจหลาย ๆ ดอกค่อย ๆ เขี่ย ไป เขี่ยมา  ดอกนี้ไม่ได้ก็เปลี่ยนมาเป็นดอกนี้ อะไรประมาณนี้แหละ ค่าใช้จ่ายก็ประมาณ 800 บาทขึ้นไป ถึง 2000 บาท แล้วแต่รุ่น แล้วแต่ความยากง่าย   แต่ที่ร้านเขาไม่มีวิธีนี้เพราะว่าตัวกุญแจมันมีราคาแพง  ชุดละประมาณ 5,000 บาท เข้าไปนั่น  แต่เขามีวิธีที่ 2 คือว่าใช้ลวด เส้นพอประมาณ ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่มีความแข็งพอสมควร  ซึ่งเขาใช้วิธีนี้แหละ  ออกไม่ต้องห่วง แต่ก็นานเหมือนกัน  เพราะว่ายากสักหน่อยสำหรับวีโก้  เพราะมีรางกระจกที่ซับแคบ ไม่เหมือน อีซูซุ ดีแม็ก อะไรประมาณนั้น  ง่ายนิดหนึ่ง ค่าใช้จ่าย 300 บาท  ผมก็โอเค ขอให้ออกก็แล้วกัน  

http://autocar2555.blogspot.com/2013/07/vigo.html 

นี่แหละอุปกรณ์ที่เป็นตัวเปิดประตู มันคือลวดเชื่อมแก๊ส แล้วนำมาดัด

เขาก็เริ่มทำงานทันทีโดยใช้ลวดที่ว่านั้นแหละ แหย่ไปแหย่มาเล่นอยู่พักใหญ่  ใหญ่จริง ๆ เล่นเอาจนผมเริ่มถอดใจแล้วซิ  คิดว่าจะทุบกระจกข้างแล้ว  เพราะว่าผมโทรไปหาร้านที่ผมเคยไปซ่อมกระจกที่ระยองไว้แล้ว ว่าคิดผมเท่าไร  เขาบอกว่าของผมคิดไม่แพงหรอก  700 บาท  ปกติก็ 1,200 บาท พร้อมติดฟิลม์  ผมก็เริ่มหาทางออกไว้แล้ว นั่นคือวิธีที่ 3 เป็นวิธีของผมเอง  เวลาผ่านไปถึง 3 ชั่วโมงเห็นจะได้  ก็เริ่มเขี่ยจนออก ผมก็ดีใจว่าไม่ต้่องใช้วิธีที่ 3  แต่ปรากฎว่าก็รู้สึกว่าฟิลม์ของผมด้านในมันถลอกปอกเปิกพอสมควร แต่ก็ไม่พูดไม่ออก ในเมื่อเขาก็ทำให้ออกแล้ว และเราก็สะเพร่าเอง ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ของผู้ที่อ่านบทความของผม ผู้ที่ติดตามบล็อกของผม คงจะเป็นประโยชน์ไม่มากบ้างก็น้อยน่ะครับ  ก่อนที่จะออกจากรถก็คิดให้เรียบร้อย คิดให้ดีเสียก่อนน่ะครับ อย่าให้เหมือนผม  สำหรับรถยนต์ที่ใช้กุญแจแบบธรรมดา ไม่ใช้รีโมท  สำหรับคนที่มีรีโมทก็คงไม่มีปัญหาอะไร และอีกอย่างหนึ่งควรมีกุญแจสำรองไว้ใกล้ ๆ ตัวด้วย เช่นกระเป๋าตางค์ หรืออะไรก็ได้ที่คิดว่าไว้ในที่ปลอดภัยแล้วเราสามารถเอามาใลช้ได้เมื่อเกิดปัญหาน่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น