วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

Hyundai Tucson รถยนต์เกาหลีแต่ดีเกินคาด

Hyundai Tucson รถยนต์เกาหลีแต่ดีเกินคาด 
Hyundai ถึงแม้จะเป็นรถยนต์เกาหลีแต่ขอบอกไว้ก่อนคุณภาพดีเกินความคาดหมาย ซึ่งจากการทดสอบเกือบได้คะแนนเต็ม 100 เลยทีเดียว  Hyundai จะมีรถยนต์หลายรุ่น แต่รถรุ่นนึ่งที่ดูจะเตะตามายาวนานตั้งแต่ที่ได้เห็นในงานเปิดตัว คงไม่พ้น  Hyundai Tucson ที่ให้นิยามของความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีดีมากกว่าแค่การใช้สอย หากแต่ยังให้อรรถรสในการขับขี่ที่เร้าใจ พร้อมทรวดทรงที่ดูดีตั้งแต่แรกเห็นจนไม่ว่าใครก็ต้องถามคำถามว่า " นั่นมันรถยี่ห้ออะไรกัน"  คงแปลงใจในการออกแบบของนักออกแบบ Hyundai แบบงง
           Hyundai Tucson  ได้รับการออกแบบให้มีเรือนร่างของ Hyundai Tucson ถูกออกแบบมาให้มีการตอบสนองในเรื่องเสน่ห์ยามเคลื่อนไหวมากขึ้น ด้วยปรัชญาการออกแบบใหม่ล่าสุด Fluidic Sculpture ที่มาพร้อมกับ ความพริ้วไหวของเรือนร่าง เป็นเส้นสายใหม่ที่ค่ายรถยนต์เกาหลีใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ทุกรุ่นของค่าย
 Hyundai Tucson กระจังหน้า  6  เหลี่ยมผนวกเข้ากับการออกแบบที่ทรงเสน่ห์เติมอารมณ์กึ่งหรูด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยม สอดคล้องกับไฟหน้าที่ดูโฉบเฉี่ยวและยังลงตัวกับเส้นสายการออกแบบที่ให้ความละมุนละไม ต้งแต่แดนหน้า ที่กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัวให้ความรู้สึกที่ดูหรูหรา แต่ภาวนาว่าอย่าเจอพี่วินมอเตอร์ไซค์สอยไประหว่างทางแล้วกัน
           Hyundai Tucson บั้นท้ายให้ความกลมกลืนในโฉมลักษณ์ความสปอร์ต ทั้งไฟท้ายที่ดูลงตัวมากที่สุดในหมู่รถอเนกประสงค์ที่ดลใจให้ออกแบบมาในความสปอร์ต และยังมาพร้อมชุดสปอร์ยเลอร์หลังเสร็จสรรพพร้อมใช้งานพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม ที่ติดตั้งมาให้ในตัว ซึ่งทั้งหมดนี้จุดในเรือนร่างยาว  4,410 ม.ม. กว้าง 1,820  ม.ม. และสูง 1,655  ม.ม. เข้าตามสูตรรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็คคาร์ซึ่งกำลังเป็นที่ยอดนิยมของคนยุคใหม่ที่ต้องการประหยัดพลังงาน
               Hyundai Tucson เปิดประตูหมับเข้าสู่ห้องโดยสารดีกรีการออกแบบภายนอก ถูกส่งเข้าสู่ภายในห้องโดยสารที่ก้าวล้ำในความสปอร์ตตบแต่งด้วยสีทูโทน อาจจะดูแล้วแก่ไปนิด สำหรับสีโทนดำ ตัดกับน้ำตาลแดง ซึ่งดูโอเคแต่ยังไม่ยอดเยี่ยม เบาะนั่งทั้งหมดจับหุ้มหนังแท้เสร็จสรรพ เช่นเดียวกับพวงมาลัย และด้ามเกียร์  ช่วยเติมอารมณ์ความหรูหรามาให้ลงตัวพอสมควร แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่เบาะนั่งปรับไฟฟ้าที่ขาดหายในรุ่นดีเซล เช่นเดียวกับกระจกตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมกล้องมองหลังในตัวด้วย
 Hyundai Tucson ตรงหน้าคนขับจัดมาให้ในความทันสมัยกับแสงสีฟ้าเรืองรองตั้งแต่สตาร์ทเพิ่มเสน่ห์ในเรื่องของความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นอย่างลงตัว โดยตรงกลางหน้าจอยังให้ข้อมูลสำหรับการขับขี่  อาทิ ระยะทางที่เหลือในการขับขี่ ,ระยะทางที่เดินทางมา ,หรือจะเป็นอัตราประหยัด ในการบริโภคน้ำมัน
          Hyundai Tucson พวงมาลัยแบบ  4 ก้านเสริมความหรูเติมความสปอร์ตด้วยสีโทนเมทัลลิค  มาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่ให้ได้ใช้งานในยามขับขี่ และเป็นที่น่าเสียดายที่ความหรูจบลงด้วยระบบแอร์แบบมือหมุนที่จะว่าไปก็ดูขัดๆ ไป บ้างในบางอารมณ์ เหมือนกันและทำให้ตัวรถดูมีเสน่ห์ที่น้อยลงไปจากเดิมพอสมควร เมื่อนับว่ามันมาในแนวทางหรูทันสมัยที่จัดมาเต็มที่ในงานออกแบบของตัวรถ
             Hyundai Tucson  ออกแบบเบาะนั่งค่อนข้างให้ความสบายขนาดใหญ่พอดีตัวเกินคาด สามารถนั่งได้สบายไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับด้านหลังที่มีการออกแบบท่านั่งที่ค่อนข้างดีทำให้สามารถนั่งในระหว่างเดินทางได้สบายตัวพอสมควร แถม Hyundai Tucson ยังจัดท่านั่งที่ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป ซึ่งแม้จะนั่งสูงถึง 3 คนที่เบาะนั่งทางด้านหลังก็ใช่ปัญหาในการเดินทาง
 Hyundai Tucson ถึงเวลานี้ก็ต้องบอกว่าทุกอย่างที่ให้ความลงตัวในการเดินทางตอบโจทย์เรื่องของการเดินทางด้วยเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล แต่วันนี้ที่เรามาขับขี่กันเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ที่ออกมาวางจำหน่ายล่าสุด โดยเน้นเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันแพงเช่นนี้การเดินมทางไกลด้วยเครื่องยนต์ดีเซลจะให้ความประหยัดมากกว่าอย่างชัดเจน
                 Hyundai Tucson กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และ แรงบิดสูงสุดแนวระนาบ  สุงสุด  392  นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1800-2500 รอบต่อนาที จากเครื่องยนต์ดีเซล  CRDi  ขนาด 2.0 ลิตร ทำให้ Hyundai Tucson  Diesel  กลายเป็นอเนกประสงค์ดีเซลดุดันในเรื่องการขับขี่ ทั้งหมดส่งลงระบบเกียรค์อัตโนมัติ  6  สปีด ที่เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ และยังมีระบบ Manul mode  ใช้ในการตอบสนองในยามที่ต้องการกำลังมากที่สุดในการขับขี่ซึ่งถือว่า Hyundai Tucson ออกแบบมาเพื่อปิดช่องว่างจริง ๆ 


วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

Hennessy Venom GT รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ราคา 36 ล้าน ผลิตเพียง 29 คัน


Hennessy Venom GT  รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ราคา 36 ล้าน ผลิตเพียง 29 คัน
Hennessy Venom ชื่อนี้ฟังคุ้น ๆ เหมือนเคยดื่มยังไงยังงั้นเลย แต่จะให้แปลกกว่านั้นไปอีกก็เป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกซึ่งได้ทดสอบแล้วทำลายสถิติเดิมที่ค่ายอื่น ๆ ทำเอาไว้  Hennessy Venom GT สามารถพิชิตตัวเลข  0-300 ก.ม./ช.ม. ได้ใน 13.18 วินาที แต่ราคาก็ไม่น้่อยหน้าเลยทีเดียว 36 ล้านบาท และก็ผลิตเพียง 29 คันเท่านั้นเอง 
Hennessy Venom GT เมื่อพูดถึงรถยนต์สายพันธุ์แรงที่วางจำหน่ายในโลกใบนี้ไม่ว่าใครก็คงต้องอยากรู้จักรถยนต์ที่เร็วแรงที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอน ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราน่าจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าสปอร์ตไฮเทคของ ค่าย Bugatti ที่อวดเอา Veyron มาวาดลีลาความเร็ว แต่ใครจะคิดว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าและวันนี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว
               Hennessy Venom GT ถ้าถามว่ารถที่เร็วที่สุดในโลกคืออะไร นับตั้งแต่วันที่คุณได้อ่านเรื่องราวที่ เรากำลังนำเสนอนี้ ขอให้คุณคิดเอาไว้เลยว่านี่คืออีกครั้งของจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์โฉมหน้าวงการยานยนต์โลก เมื่อ  Hennessy  ค่ายรถยนต์ชื่อเหมือนบรั่นดีในบ้านเราเปิดตัว  Hennessy Venom GT  เขี้ยวเล็บที่คมกริบที่พร้อมท้าพิสูจน์ความแรง
 Hennessy Venom GT  เป็นรถยนต์ที่เกิดขึ้นมาจากการพัฒนาอย่างหนักของ Hennessy Performance  หรือ  HPE  โดยตัวรถของ Hennessy Venom GT ใช้พื้นฐานจากรถสปอร์ตที่คุ้นเคยกันดี  Lotus Elise  แต่เครื่องยนต์เดิมของมันดูจะไม่เร้าใจ จึงทำการยัดเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งกว่า ที่ครั้งนี้มันจะปั่นฝีเท้าผ่านขุมพลัง  V8  ขนาด 7.0 ลิตร (พัฒนาจาก 6.2 ลิตร) จากรถ  Corvette ZR1 ในรหัส LS9 ที่ยังมาพร้อมกับระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จคู่ ให้แรงม้าสูงสุด  1,244 แรงม้า และแรงบิดให้มากถึง 1,155 ปอนด์-ฟุต ในขณะที่ตัวรถเองมีน้ำหนักเพียง 1,244 กิโลกรัมเท่านั้น
                Hennessy Venom GT กำลังที่มากและตัวรถที่เบา ทำให้ มันมีความเป็นไปได้ในการทุบสถิติโลก โดยสำนักจอมบันทึก  Guinness World Record  ได้ร่วมทำการบันทึกสถิติครั้งนี้ด้วย ที่สนามบินเอลิงตัน เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา โดยผลคือ  Hennessy Venom GT สามารถพิชิตตัวเลข  0-300 ก.ม./ช.ม. ได้ใน 13.18 วินาที ในการวิ่งครั้งแรก ที่มีลมส่งท้าย 4 กิโลเมตร/ชั่วโมง และในรันที่สองที่จับสถิติ มีลมต้าน 9.7 กิโลเมตร / ชั่วโมงทำเวลามากขึ้นเป็น 14.08 วินาที
หลังการจับสถิติการเร่งของ Hennessy Venom GT ในที่สุดมันก็กลายเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยเวลาเฉลี่ยที่ 13.63 วินาที ในการเร่ง 0-300  กิโลเมตร/ชั่วโมง และในอัตราเร่งอย่างไม่เป็นทางการ 0-200 ไมล์ / ชั่วโมง มันสามรถทำได้ 14.54 วินาที ดีกว่า รถสปอร์ตชั้นนำอย่า ง Koenigsegg Agera R  ที่ทำเวลาไว้ 17.68 วินาที และ เมื่อเทียบกับรุ่นใหญ่ Bugatti Veyron Super sport  ที่มาพร้อมกำลัง 1,200 แรงม้า ที่ทำสถิติเดียวกันไว้ที่ 22.2 วินาที เจ้า Hennessy Venom GT ก็ยังเร็วกว่า และแน่นอนว่า มันครองแชมป์รถที่เร็วที่สุดในโลกไปในท้ายที่สุด
                Hennessy Venom GT แม้จะเป็นชื่อที่ไม่รู้จัก แต่ด้วยความเร็วที่เร้าใจของมัน ทำให้น่าจะได้รับความสนใจ สำหรับคนรักความแรง แต่ Hennessy มีแผนในการผลิต Hennessy Venom GT เพียง 29 คันเท่านั้น โดยราคาค่าตัวเฉลี่ย คันละ 1.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ มันจะมีราคาประมาณ 36 ล้านบาท ในตลาดต่างประเทศ  ใครที่อยากจะได้ก็ต้องรีบขวนขวายเอาเองน่ะครับเพราะผลิตน้อยเหลือเกิน งานนี้มีตังค์อย่างเดียวซื้อไม่ได้น่ะครับ ต้องมีเ้ส้นด้วยน่ะครับท่านผู้ชม เดี๋ยวผมรีบไปจองก่อนเดี๋ยวไม่ทัน

MAZDA 6 Sedan 2013 ความลงตัวของรถยนต์เจเนอเรชั่นที่ 6

MAZDA 6 Sedan 2013 ความลงตัวของรถยนต์เจเนอเรชั่นที่ 6
MAZDA ประสบความสำเร็จมากมายในยอดขายรถยนต์รุ่นที่ผ่านมา MAZDA จึงได้ออกรุ่นใหม่ 2013 MAZDA 6 Sedan รุ่นที่มีความลงตัวด้านการออกแบบที่เป็นสุดยอดทางเทคโนโลยี ซึ่งมีการออกแบบให้มีความทันสมัย MAZDA 6 จึงใช้ระบบไฟฟ้าในการควบคุมทั้งหมด สร้างความสะดวกสะบายให้กับผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก  ถึงจะมองว่าการที่ Mazda เปิดตัวรถรุ่นนี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 แล้ว แต่ก็ยังคงมีการพัฒนาปรับปรุงออกมาเรื่อย ๆ สำหรับรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบ Sedan และ Wagon ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี SKYACTIVE และเสริมทัพจัดเต็มในเรื่องของความเป็นสปอร์ตตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกไปถึงภายในห้องโดยสาร
          MAZDA 6 2013 Sedan นอกจากเน้นความคล่องตัวมากกว่าเดิมแล้ว ยังรวมถึงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกับระบบใหม่ i-ELOOP กับระบบเบรกที่เวลาใช้งานสามารถนำกลับมาเก็บเป็นประจุ เพื่อนำไปใช้งานในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า ซึ่งสามารถนำมาใช้กับชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าได้ทั้งหมด
MAZDA 6 Sedan 2013 การออกแบบภายนอกเน้นลายเส้นที่กลมกลืนและต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้ายันด้านท้ายตามหลักอากาศพลศาสตร์ ประณีตกับทุกมุมมอง เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าทรง 5 เหลี่ยมลายซี่ คาดล่างด้วยเส้นโครเมียมลากตวัดไปบรรจบกับโคมไฟหน้า Projector รูปทรงโฉบเฉี่ยวคาดบนด้วยหลอด LED โดยมีสปอตไลท์คอยรองรับเข้าไปอีกชั้นในกรอบสีดำ ช่องดักอากาศขนาดย่อมตัดชายล่างด้วยลิ้นดำเพิ่มความดุดัน ฝากระโปรงหน้ากับแก้มข้างสอดรับกันอย่างลงตัว
          MAZDA 6 Sedan 2013 ด้านล่างสวยสง่าด้วยลายเส้นทอดตัวจากล้อหน้าไปจรดไฟท้ายกระจกมองข้างทรงสปอร์ต แนวหลังทำมุมโค้งมนกลมกลืนไปกับกระจกหลังที่มีขนาดใหญ่ ต่อเนื่องถึงฝากระโปรงท้ายที่ออกแบบให้แยกกระดกขึ้นเล็กน้อย ลักษณะคล้ายสปอยเลอร์หลัง โดยมีคิ้วโครเมียมรับอยู่บริเวณเหนือที่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ปล่อยท่อไอเสียสเตนเลสคู่ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

MAZDA 6 Sedan 2013 ห้องโดยสารมาแนวสปอร์ตเต็มขั้น ออกแบบให้ลักษณะคล้ายห้องนักบิน โดยใช้วัสดุอุปกรณ์คุณภาพสูงได้มาตรฐานและเน้นความประณีต แนวเส้นความต่อเนื่องของคอนโซลหน้าแผงแดชบอร์ดรวมไปถึงเท้าแขนทำออกมาได้ดี เรือนไมล์เป็นวงกลม 3 อันทับซ้อนกันบอกตัวเลขเป็นแบบอะนาล็อกและดิจิตอล ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้าย/ขวา เบาะหุ้มหนังแท้เดินด้วยด้ายแดง บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตมากขึ้น เบาะหลังปรับพับได้ในอัตราส่วน 60 : 40 สะดวกสบายด้วยช่องเก็บสิ่งของรวมถึงที่ขวดน้ำ แก้วน้ำ ทั่วทั้งคัน โดยมาพร้อมกับจอนำทางขนาด 5 นิ้วตั้งตระหง่านบริเวณกลางคอนโซลหน้า แสดงผลแยกออกเป็นหมวดหมู่ ตามแต่การใช้งานในช่วงนั้น ๆ ซ้ำยังเป็นจอแสดงผลจากกล้องส่องหลัง สะดวกสบายเวลาเข้าจอดในที่แคบหรือมุมอับสายตา
          MAZDA 6 Sedan 2013 เครื่องยนต์มีมาให้เลือก 2 บล็อกด้วยกันเป็นเครื่องเบนซินทั้งคู่ แบบ SKYACTIVE-G บล็อกแรกความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่วนอีกบล็อกมาในขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 189 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 256 นิวตัน-เมตร ที่ 3,250 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังพร้อมเกียร์แบบอัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-Drive กำหนดขึ้นโชว์รูมในช่วงต้นปี 2013 นี้แล้ว หากผ่านโชว์รูป MAZDA ก็อย่าลืมเข้าไปชมตัวจริงเสียงจริงกันเลยน่ะครับ ว่าจะงามอย่างที่บอกหรือเปล่า

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

BMW X5 โฉมใหม่หรูหรามาก ความลับที่ถูกเปิดเผยโดยบังเอิญ


BMW X5 โฉมใหม่หรูหรามาก ความลับที่ถูกเปิดเผยโดยบังเอิญ 
หาำกเอ่ยชื่อรถยนต์ BMW แล้วก็ต้องบอกว่าสุดยอดจริง ๆ สำหรับรถยนต์ยุโรปยี่ห้อนี้ ใครหลายคนก็ปฏิเสธยากสำหรับสมรรถนะพร้อมกับความเป็นสปอร์ตในคันเดียวกัน รวมถึงความคลาสสิกหรูหราก็ต้องยกให้เขาเลยสำหรับ BMW  และล่าสุด BMW ซึ่งแอบซุ่มเงียบที่จะออกตัวรุ่้นใหม่เป็น BMW X5 ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดแห่งการออกแบบจริง ๆ และยังไม่เปิดเผยรูปลักษณ์มาก่อนกะที่จะมาเซอร์ไพรส์ในเดือนมีนาคมนี้  แต่จนแล้วจนรอดก็มีภาพหลุดออกมาทางเฟสบุ๊คซะงั้นเลยนำมาให้ชมกันก่อน
กำลังจะออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับรถยนต์จากค่ายตราพัดฟ้าที่มีการปรับรุ่นปรุงโฉมมากมาย รวมถึงในอนาคตเราอาจจะได้เห็นว่าที่รถยนต์รุ่นใหม่ 2014 BMW X5
                ความเคลื่อนไหวของว่าที่รถยนต์รุ่นใหม่  BMW X5  ใหม่ นี้ไม่เคยมีการพูดถึงมาก่อน จวบจนในงาน Detroit Auto Show 2013 ที่อยู่ดีๆ ผู้ผลิตโมเดลรถยนต์เกิดหลุดภาพว่าที่รถรุ่นใหม่ออกมาก่บนเฟซบุ๊ค ก่อนที่จะลบออกไปในท้ายที่สุด แต่ภาพดังกล่าวก็ถูกเว็บไซต์มาเลเซียเซฟเก็บไว้ ก่อนที่จะอันตรธานหายไป
จากภาพชุดใหม่นี้ ในการปรับโฉม BMW X5  ใหม่มีการเน้นเส้นสายที่สะอาดตามากขึ้น แต่ยังคงความหรูหราและดุดันของตัวรถไว้เหมือนเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของด้านหน้าที่ยังเป็นแบบหน้าแห่งความหรูหรา มาพร้อมกระจังหน้า  Kidney Grill เหมือนเดิม รวมถึงไฟหน้าที่มีความคล้ายกับ BMW Series 5  ใหม่พอสมควร ด้วยสัดส่วนหลายๆอย่างที่ยังคงถูกถ่ายทอดมาสู่ BMW X5 รวมถึงด้านหลังที่เหมือนกันไม่เปลี่ยนแปลง และไฟท้ายนี้ก็ช่วยให้มันดูมีความลงตัวมากขึ้น
                แม้จะไม่มีรายละเอียดอื่นๆนอกจากภาพหยาบๆ ที่หลุดออกมาโดยบังเอิญ แต่ก็มีการพูดถึง 2014  BMW X5 อย่างกว้างขวางว่า รถรุ่นนี้จะมาพร้อมเครื่องยนต์ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งน่าจะมีให้เลือก ตั้งแต่ขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่กะเกณฑ์ว่าน่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้นไปยันรุ่นแรงเร้าใจจากเครื่องยนต์  V8 ขนาด 4.4 ลิตรเทอร์โบคู่ ที่จะให้ความเร้าใจในการขับขี่
                BMW X5 ถึงจะยังไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเรื่องกำหนดการเปิดตัว ของ 2014  BMW X5ใหม่ แต่เชื่อว่า รถรุ่นนี้จะพร้อมในการเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน Geneva Motor Show 2013  ที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมสำหรับคนไทยเราก็เลยนำภาพ BMW X5 มาให้ชมเป็นขวัญตา

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

NISSAN NAVARA นิสสัน นาวารา ใหม่ แกร่ง เต็มพิกัด

NISSAN NAVARA นิสสัน นาวารา ใหม่ แกร่ง เต็มพิกัด
Nissan Navara ใหม่ แกร่ง เต็มพิกัด ประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์ YD 2.5 VN TURBO 
174 แรงม้า แรงจัด ประหยัดน้ำมันพร้อมสมรรถนะเป็นเยี่ยม พร้อมลุยข้ามทุกขีดจำกัด ด้วยแชสซี่ส์พันธุ์แกร่งเอกสิทธิ์เฉพาะของนาวารา พร้อมช่วงล่าง เกาะถนนเป็นเยี่ยม และปลอดภัยเต็มพิกัด ตอบรับทุกการใช้ชีวิตด้วยความแกร่ง ที่มาจากข้างใน สัมผัสด้วยตัวคุณเอง วันนี้ที่โชว์รูมนิสสัน ทั่วประเทศ
ด้วยโครงสร้างแชสซีส์ขนาดใหญ่ แข็งแกร่งตามมาตรฐานนิสสันทั่วโลก ขึ้นรูปด้วยเหล็กกล้า 2 ชั้น ชิ้นเดียวยาวตลอด เพิ่มพื้นที่หน้าตัดและความหนา ณ จุดที่ต้องรองรับงานน้ำหนักสูง สำหรับปิคอัพพันธุ์แกร่งบรรทุกหนักโดยเฉพาะ พร้อมระบบช่วงล่างแกร่ง ช่วยดูดซับและผ่อนแรงกระแทกตอบรับสภาพถนนทุกเส้นทาง
ทะยานไปแบบสบายๆกับทุกเส้นทางที่ท้าทาย นิสสัน นาวารา สปอร์ต เวอร์ชั่น ใหม่ ด้วยแชสซีส์พันธุ์แกร่ง เอกสิทธิ์เฉพาะของนาวารา ผสานพลังแรงจัด ที่พร้อมทะยานสู่ทุกจุดหมายอย่างมั่นใจ เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย และความปลอดภัยเต็มพิกัด พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูมนิสสัน ทั่วประเทศ
โครงสร้างใหญ่แข็งแกร่ง พร้อมลุยไปกับทุกที่เมืองไทย ด้วยความอุ่นใจในสมรรถนะที่เป็นเยี่ยมด้านการออกแบบให้ยึดถนนได้อย่างสุดยอดด้วยเหล็กกล้า 2 ชั้นที่เป็นชิ้นเดียวตลอดทั้งคัน  ทำให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
Nissan Navara นิสสัน นาวารา ใหม่ แกร่ง เต็มพิกัด ที่ออกแบบภายในกว้างใหญ่ สะดวกทั้งผู้ขับขีั่ และผู้โดยสารร่วมเดินทางเหมือนนั่งในห้องรับแขกที่บ้านยังไงยังงั้น ภายในพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เครื่องเล่น DVD จอใหญ่เต็มตาชัดเจนแบบจุใจกันเลยทีเดียว
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Nissan Navara ด้วยอุปกรณ์แต่งรถที่มาพร้อมกับตัวนิสสัน นาวารา ใหม่ รับรองได้เลยว่าถูกใจโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมก็สวยพร้อมลุยได้อย่างลงตัว

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

NISSAN NOTE นิสสัน โน้ต โฉมใหม่ ปราดเปรียว ลู่ลมตามหลักพลศาสตร์

NISSAN NOTE นิสสัน โน้ต โฉมใหม่ ปราดเปรียว ลู่ลมตามหลักพลศาสตร์
Nissan Note ถึงเวลาแล้วที่มีการปรับปรุงใหม่เพื่อเอาใจคนรักรถยนต์ในเมืองโดยเฉพาะได้เวลาของการปรับโฉมให้ทันยุคสมัยขึ้นสำหรับ "โน้ต" (Note) รถเล็กจากค่ายนิสสัน ขวัญใจคนเมืองที่ต้องการรถยนต์ขนาดกำลังดีที่มีความพร้อมสรรพในทุกด้าน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกอันโฉบเฉี่ยว ภายในอันล้ำสมัย และเครื่องยนต์อันมีประสิทธิภาพและให้ความประหยัดยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ครองใจผู้ใช้รถยนต์พิกัดนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันรถแนวอีโค่คาร์ซึ่งกำลังบุกตลาดอยู่ในปัจจุบันนี้ั

          การปรับปรุงโฉมในครั้งนี้จะเห็นว่ารูปลักษณ์ของ Note มีความปราดเปรียวลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์มากกว่าเดิม โดยเฉพาะด้านหน้าที่ดูแหลมและลาดเทนับตั้งแนวฝากระโปรงที่แบนราบ รับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นแผ่นทึบสาดสีเดียวกับตัวรถ ด้านล่างเจาะเป็นช่องดักอากาศขนาดใหญ่เติมเส้นสายบางส่วนรับกับแนวอื่นที่ช่วยให้ด้านหน้าดูแหลมขึ้นมองดูสวยงามมากยิ่งขึ้น ปราดเปรียวขึ้น ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็คเตอร์รูปทรงแปลกตาที่เว้าบางส่วนให้เข้ากับมุมของกระจังอย่างลงตัว

กันชนหน้าดูล้ำสมัยด้วยเส้นนูนสันบริเวณช่องใส่ไฟตัดหมอก ส่วนกึ่งกลางเจาะเป็นช่องดักอากาศขนาดใหญ่ดักอากาศเข้าเป่าห้องเครื่องยนต์ ด้านข้างดูลาดเทลู่ลม บริเวณบานประตูเว้าลงเล็กน้อยเพิ่มมิติให้กับตัวรถ ด้านท้ายสะดุดตากับไฟท้ายแบบ LED รูปทรงแปลกตาออกแบบรับกับเส้นสายของตัวรถ ส่วนกันชนโค้งเว้าพอประมาณดูกลมกลืนกับส่วนอื่น ๆ มิติขนาดตัว ยาว/กว้าง/สูง เท่ากับ 4,100/1,695/1,525 (4 WD 1,535)

          ภายในห้องโดยสารของ Note มาในแนวน่ารักผสานไปกับความทันสมัยของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบริเวณคอนโซลกลางที่จัดให้นูนสูงขึ้นทั้งชุดขับกล่อมชั้นดี มาพร้อมหน้าจอ LCD และระบบนำทาง ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลทรงกลมสวยทันสมัย ด้านข้างคอนโซลกลางมีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์มาเสริมความสะดวกสำหรับรถยนต์ยุคใหม่

         ขยับมาดูด้านบนจะพบกับช่องแอร์ทรงกลมสองช่องล้อมกรอบโครเมียมเสร็จแล้วตกแต่งคอนโซลกลางด้วยพลาสติคสีดำ ด้านข้างเป็นสีบรอนซ์ดูดีน่าสัมผัส ทางฝั่งผู้ขับขี่สะดุดตากับมาตรวัดค่าทรงกลมวางซ้อนกันสามวง ถัดมาเป็นพวงมาลัยแบบสามก้านหน้าตาน่ารัก คอนโซลเกียร์อัตโนมัติโดดเด่นด้วยคันเกียร์ด้ามยาวมาพร้อมหัวเกียร์ดีไซน์สวย สำหรับเบาะนั่งแต่ละตำแหน่งขนาดกำลังดีออกแบบเน้นนั่งสบายก่อนจะห่อหุ้มด้วยผ้าสีทูโทนเพิ่มความน่าสนใจให้ห้องโดยสารได้มากขึ้น


เครื่องยนต์มีให้เลือกใช้ 2 บล็อกด้วยกัน ตัวแรกรหัส HR12DE แบบ DOHC 3 สูบ ปริมาตรความจุเครื่องยนต์ 1,198 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักเท่ากับ 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร มีกำลังให้ใช้งานสูงสุด 58 กิโลวัตต์ (79 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ผ่านการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า ลงสู่ล้อที่มีให้เลือกทั้งขนาด 14 นิ้วกับยาง 185/70 R 14 และขนาด 15 นิ้วกับยาง 185/65 R 15

          ส่วนอีกบล็อกเป็นเครื่องยนต์รหัส HR 12 DDR แบบ DOHC 3 สูบ ปริมาตรความจุเครื่องยนต์ 1,198 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก เท่ากับ 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 มีกำลังให้ใช้งาน 72 กิโลวัตต์ (98 แรงม้า) ที่ 5,600 รอบต่อนาที กับแรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ระบบขับเคลื่อนแบบ 4WD วงล้อขนาด 14 นิ้ว ยาง 185/70 R 14

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

TOYOTA CROWN รถซีดานเก่าแก่ที่สุด ที่ยัีงผลิตอยู่

TOYOTA CROWN รถซีดานเก่าแก่ที่สุด ที่ยัีงผลิตอยู่
รถยนต์ TOYOTA CROWN เท่าที่ยังจำได้เป็นรถยนต์ที่รูปทรงค่อนข้างจะใหญ่สวยงามแบบภูมิฐาน สำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ในความคิดของผม รูปทรงออกแบบมาสำหรับเป็นรถยนต์ซีดานโดยเฉพาะ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว TOYOTA CROWN ยังเป็นที่นิยมตลอดมาไม่เปลี่ยนแปลง เรามาดูโฉมกันดีกว่า

ออกรุ่นใหม่มาให้ได้ยลโฉมกันอีกแล้ว สำหรับรถยนต์หรูขนาดกลางของโตโยต้าอย่าง โตโยต้า คราวน์ (Toyata Crown) ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสว่าทางค่ายอาจจะปรับโฉมใหม่อย่างเป็นทางการเพื่อกระตุ้นยอดขายของรถยนต์กลุ่มนี้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากตลาดในประเทศญี่ปุ่น โดย Toyota Crown จัดว่าเป็นรถซีดานที่เก่าแก่ที่สุดของโตโยต้าที่ยังอยู่ในสายการผลิต 

         ทั้งนี้ เว็บไซต์ cbt.com รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า โตโยต้าได้เปิดตัว Toyota Crown รุ่นใหม่ โดยรุ่นใหม่นี้ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 14 ของรถยนต์รุ่นนี้ ใช้รหัส S210 ที่นำเสนอใน 2 เวอร์ชั่น ต่างกันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นแม่แบบอย่าง โตโยต้า คราวน์ แอตลีต (Toyota Crown Athlete) แนวสปอร์ตซีดาน และในเวอร์ชั่น โตโยต้า คราวน์ รอยัล ซาลูน (Toyota Crown Royal Saloon)  ที่ให้ความหรูหรา

         ภายในโอ่โถงสบาย ด้วยอุปกรณ์ครบครัน สำหรับการปรับโฉม Toyota Crown รุ่นใหม่นี้ มีการออกแบบส่วนประกอบหลักให้ดูทันสมัยและแรงขึ้นด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้น พร้อมกับครั้งแรกของการแนะนำเครื่องยนต์ไฮบริดออกวางจำหน่ายในตลาดกับขุมพลัง V6 ขนาด 2.5 ลิตร 4GR-FSE ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ให้มีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ถึง 38.5 เปอร์เซ็นต์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 4,200-4,800 รอบต่อนาที  และเมื่อรวมการทำงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร จึงทำให้ Toyota Crown ใหม่ สามารถปั่นกำลังเต็มพิกัดได้สูงสุด 220 แรงม้า ส่งผ่านเกียร์ Super ECT 6 สปีด

เบาะนั่งออกแบบกลมกลืนสวยงาม ภูมิฐาน ดูสบายตา และนอกจากการยกเครื่อง Toyota Crown จะมีเครื่องยนต์ V6 ใหม่เป็นตัวชูโรงสำคัญแล้ว ยังมีเครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลัง 176 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร รวมถึงเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ V6 3.5  ลิตร ที่ให้กำลังถึง 311 แรงม้า และแรงบิด  377 นิวตันเมตร ที่จับคู่กับระบบเกียร์ Super ECT 8 สปีดด้วย

         เบาะสีโทนเข้มขรึมสำหรับท่านที่ขอบสไตล์แนบคนเข้ม ๆ และจากการทดสอบเครื่องยนต์เน้นขุมพลังใหม่ของ Toyota Crown สามารถให้อัตราประหยัดสูงสุดถึง 23.2 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งมากกว่ามาตรฐานการประหยัดน้ำมันที่ญี่ปุ่นกำหนดไว้ในปี 2015 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ 


         ส่วนราคาของ Toyota Crown นั้น เริ่มต้นที่ 3.53 ล้านเยน (ประมาณ 1.23 ล้านบาท) และมีราคาจำหน่ายสูงสุดที่ 5.43 ล้านเยน (ประมาณ 1.9 ล้านบาท) สำหรับรุ่นเครื่องยนต์  V6 ขนาด 3.5  ลิตร ใน โตโยต้า คราวน์ แอตลีต จี ไฮบริด โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นเร็ว ๆ นี้



วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

เฟอร์รารี่ Ferrari ราคาแพงที่สุดในโลก 156 ล้านบาท

เฟอร์รารี่ Ferrari ราคาแพงที่สุดในโลก 156 ล้านบาท
หากได้ยินรถยนต์ยี่ห้อ เฟอร์รารี่แล้ว Ferrari แล้วราคาก็ไม่ต้องบอกว่าหลายล้านแน่นอน  แต่หากบอกว่า Ferrari ราคา 156 ล้านแล้ว  ก็ต้องคุยกันหน่อยว่าทำไมแพงมากอย่างนั้น  

รถเฟอร์รารี่ รุ่นคลาสสิก หนึ่งในรถรุ่นที่ผลิตมาเพียง 74 คัน ถูกนำออกมาประมูลในวันที่ 18 มกราคม 2556 คาดว่าจะเป็นรถที่มีราคาแพงที่สุดในงานประมูลเลยทีเดียว

          เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ ได้รายงานว่า รถเฟอร์รารี่รุ่นคลาสสิก The Ferrari 250 GT SWB Berlinetta Competizione อาจกลายเป็นหนึ่งในรถที่มีราคาแพงที่สุดในโลก หลังถูกนำมาประมูลในสถานประมูล อาร์เอ็ม ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 18 มกราคม 2556 โดยคาดว่าราคาประมูลของรถคันนี้น่าจะพุ่งขึ้นสูงถึง 4 ล้านปอนด์ (หรือราว 156 ล้านบาท) หลังจากที่มีกระแสนิยมรถเฟอร์รารี่รุ่นคลาสสิกในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา



          รายงานระบุว่า เฟอร์รารี่รุ่นดังกล่าวถือเป็นรถสปอร์ตคลาสสิกซึ่งที่เป็นต้องการที่สุด และคาดว่าจะเป็นไฮไลท์ของงานประมูลในครั้งนี้ โดยสถานประมูลเปิดเผยว่า เฟอร์รารี่คันนี้เป็นหนึ่งในรถชั้นเยี่ยมของตระกูลเฟอร์รารี่ที่ผลิตออกมาเพียง 74 คันเท่านั้น ตัวรถสามารถเร่งเครื่องจากความเร็ว 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 6 วินาที และวิ่งได้เร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

          ทั้งนี้ โมเดลของรถรุ่นนี้ได้ถูกขายไปในราคามากกว่า 3.1 ล้านปอนด์ (หรือราว 153 ล้านบาท) เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ดังนั้นสำหรับการประมูลในครั้งนี้ราคาของรถน่าจะถีบสูงขึ้นไปอีก ซึ่งปกติแล้ว รถยนต์ประเภทนี้นับว่าหาได้ยากมากที่จะถูกนำมาประมูลในตลาดประมูลสาธารณะ

ขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกดอดคอม

SUBARU STELLA คันเล็กน่ารัก ขายดีในญี่ปุ่น


SUBARU STELLA คันเล็กน่ารัก ขายดีในญี่ปุ่น
Subaru Stella คันเล็ก ๆ น่ารัก ขายดีในญี่ปุ่นซึ่งตลาดญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมเป็นที่พอสมควรสำหรับเจ้า Subaru Stella ที่เน้นความประหยัด ด้วยขนาดตัวเล็ก กะทัดรัด ประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นแนวของรถยนต์ยุคใหม่ในปัจจุบันนี้

เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่ขนาดเล็กเน้นความประหยัด ไม่ว่าใคร คงจะต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของ  Kei Car รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่วางขายในตลาดญี่ปุ่น และล่าสุด ค่ายดาวลูกไก่ Subaru ก็เพิ่งจะส่งรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดในช่วงท้ายปี

                Subaru Stella  อาจจะไม่ใช่ชื่อที่เราหลายคนรู้จัก แต่นี่คือรถยนต์นั่งขนาดเล็กจากค่ายรถยนต์ตราดาวลูกไก่ ที่ได้รับความนิยมพอสมควร หลังจากแนะนำไปเมื่อช่วงปีที่แล้ว และการแนะนำรุ่นใหม่นี้ถือเป็นรุ่นที่ 2 ของรถยนต์รุ่นนี้

Subaru Stella  เรือนร่างที่เริ่มต้นด้วยขนาดยาว 3,359 ม.ม. กว้าง 1,475 ม.ม. และสูง 1,620 ม.ม. ให้ความแตกต่างในการออกแบบที่เพิ่มอารมณ์ในความทันสมัย  แต่ยังสปอร์ตดูกลมกลืน ในเจ้าตัวเล็กคันนี้ ให้ฐานล้อ 2,455 ม.ม. ที่พกความสามารถของช่วงล่างแบบ อม็คเฟอร์สันสตรัท ทางด้านหน้า และด้านหลังใช้แบบทอร์ชั่นบาร์ แต่ตัวมันนั้นกลับมีน้ำหนัก 810 ก.ก. เท่านั้น

                ด้านเครื่องยนต์ Subaru Stella  ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 3 สูบแถวเรียงขนาด 658 ซีซี  แถมยังมีทั้งเวอร์ชั่นธรรมดา และเทอร์โบชาร์จให้เลือก แต่ทั้งคู่ต่างมีกำลงสูงสุดที่เท่ากันที่ 64 แรงม้า แต่เวอร์ชั่นเทอร์โบนั้น จะให้กำลังเร็วกว่าที่ 6000 รอบต่อนาที แต่ในเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ธรรมดานั้นต้องใช้ถึง 7200 รอบต่อนาที

                ในเวอร์ชั่นปรับโฉมใหม่นี้ Subaru Stella  ยังมาพร้อมกับมาตรฐานใหม่ ด้วยระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ รวมถึง จานเบรกหน้าระบายความร้อน และมีการปรับสมรรถนะช่วงล่างทางด้านหลังเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้คุณได้มั่นใจมากยิ่งขึ้น